งาน Alimentaria&Hostelco ที่ใหญ่ที่สุดในโลกยืนยันถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมอาหารและความก้าวหน้าด้านนวัตกรรม

บาร์เซโลนา ประเทศสเปน, March 25, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Alimentaria&Hostelco ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มงานแสดงสินค้าชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์บริการด้านอาหารและการต้อนรับ ได้เสร็จสิ้นการจัดงานเมื่อวานนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมจากนานาชาติและธุรกิจที่มารวมตัวกันอีกครั้งจากทุกภาคส่วน และสร้างความก้าวหน้าให้แก่สายผลิตภัณฑ์หลักและแนวโน้มของอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนขึ้นและดีต่อสุขภาพมากขึ้น รวมทั้ง AI และโซลูชันหุ่นยนต์สำหรับช่องทางธุรกิจ Horeca ได้รับการนำเสนอตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 21 มีนาคมในงานอีเวนต์ที่จัดขึ้นในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน

บริษัทที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 3,200 แห่งจาก 68 ประเทศได้มีส่วนร่วมในงานอีเวนต์ เพื่อสนับสนุนธุรกิจ การก้าวสู่ความเป็นสากล และการแข่งขันในภาคธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของเศรษฐกิจในประเทศสเปน ผู้ประกอบการระดับมืออาชีพประมาณ 107,900 คนได้มาเยี่ยมชมงาน โดย 25% จากจำนวนนี้เป็นผู้เข้าร่วมชาวต่างประเทศจาก 120 ประเทศ ด้วยตัวเลขผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ประมาณไว้ที่ 180 ล้านยูโร Alimentaria&Hostelco สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของการจัดงานอีเวนต์ ซึ่งจัดขึ้นบนพื้นที่จัดแสดงสินค้าสุทธิเกือบ 100,000 m2 ที่ครอบคลุมเกือบทั้งสถานที่ของ Fira de Barcelona’s Gran Vía

บริษัทจากนานาชาติมากกว่า 900 แห่งได้มาเข้าร่วมในการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งนำโดยบริษัทจากอิตาลี และการเข้าร่วมที่โดดเด่นจากบริษัทในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีน เกาหลีใต้ และประเทศไทย

งานแสดงสินค้านี้ได้ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำโดยการเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคธุรกิจที่การจัดงานได้เป็นตัวแทนนำเสนอ อีกทั้งเสนอแพลตฟอร์มธุรกิจที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ประกอบการระดับมืออาชีพ ผู้ร่วมงานรวมถึงผู้มีบทบาทสำคัญในการจัดซื้อ 2,200 รายที่ได้รับเชิญจากตลาดเชิงกลยุทธ์สำหรับการส่งออกอุปกรณ์บริการด้านอาหารและการต้อนรับ เช่น สหภาพยุโรป USA และละตินอเมริกา ซึ่งได้มีส่วนร่วมในการประชุมมากกว่า 13,500 ครั้งร่วมกับบริษัทต่างๆ

นวัตกรรมอาหาร ศาสตร์การทำอาหาร และความก้าวหน้าด้านโปรตีน รวมทั้งแนวโน้มล่าสุดในภาคธุรกิจการต้อนรับ คือหัวข้อหลักของโปรแกรมซึ่งประกอบไปด้วยกิจกรรมมากกว่า 350 รายการที่ Alimentaria&Hostelco ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญและเชฟที่มีชื่อเสียงเกือบ 700 คนมาเข้าร่วม

งานแสดงสินค้านี้เป็นการนำเสนอที่ดีเยี่ยมสำหรับนวัตกรรมหลายร้อยรายการ รวมถึงอาหารฟังก์ชันและอาหารที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังได้ยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลที่กำลังดำเนินอยู่ในภาคธุรกิจนี้ และความเป็นไปได้ในการค้นพบเทคโนโลยีใหม่ๆ และการผสานรวมปัญญาประดิษฐ์เข้าในอุตสาหกรรม รวมถึงการให้บริการด้วยหุ่นยนต์และโซลูชันใหม่ๆ ที่จะยกระดับประสิทธิภาพในการบริหารจัดการร้านอาหารและทรัพยากร การซ่อมบำรุง การให้บริการลูกค้า และความยั่งยืน

งานครั้งถัดไปของแพลตฟอร์มงานแสดงสินค้าที่ดำเนินงานโดย Fira de Barcelona จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 ถึง 26 มีนาคม 2026

ติดต่อสื่อประชาสัมพันธ์:
Susana Santamaria – Gloria Dilluvio
ssantamaria@alimentaria.comgdilluvio@firabarcelona.com

GlobeNewswire Distribution ID 1000931044

ประเทศจีนและฮ่องกงเป็นผู้นำจากเอเชียในการเข้าร่วมงาน Alimentaria&Hostelco 2024

แพลตฟอร์มงานแสดงสินค้าจะทำการจัดหนึ่งในงานที่มีบริษัทและมืออาชีพจากนานาชาติมาเข้าร่วมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้นในบาร์เซโลนา จากบริษัท 3,200 แห่งที่ร่วมจัดแสดงสินค้านั้น บริษัทจำนวน 900 แห่งมาจากนอกประเทศสเปน และ 25% ของผู้ที่คาดว่าจะมาเยี่ยมชมงาน 100,000 คนจะมาจากมากกว่า 120 ประเทศ ทำให้อยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งในฐานะแพลตฟอร์มชั้นนำของยุโรปสำหรับภาคธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 21 มีนาคม ผู้เชี่ยวชาญและเชฟผู้ทรงเกียรติ 700 รายจะมาร่วมสนทนาเกี่ยวกับความท้าทายและแนวโน้มที่สำคัญของอุตสาหกรรม เช่น อาหารเชิงพันธภาพ (Functional Foods) ความยั่งยืนและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในกิจกรรมและการสาธิตมากกว่า 350 รายการ

บาร์เซโลนา ประเทศสเปน, March 20, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — การขยายโอกาสทางธุรกิจและการสร้างผลกระทบในระดับสากลคือวัตถุประสงค์หลักของ Alimentaria&Hostelco 2024 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานอีเวนต์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุปกรณ์การจัดเลี้ยงและธุรกิจการให้บริการ สำหรับผู้ประกอบการระดับมืออาชีพจากช่องทางการจัดจำหน่าย การค้าปลีก และธุรกิจโฮเรก้า (Horeca ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง) ซึ่งจะจัดขึ้นบนพื้นที่สุทธิ 100,000 ตารางเมตรที่ Fira de Barcelona’s Gran Via

นอกจากสเปนแล้ว ประเทศที่มีพื้นที่การจัดงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดจะเป็นอิตาลี ตามมาด้วยตุรกี จีนและฮ่องกง โปแลนด์ โปรตุเกส ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เยอรมนี เนเธอแลนด์ และอาร์เจนตินา การเข้าร่วมที่โดดเด่นคือประเทศจากเอเชียซึ่งนำโดยจีนและฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจำนวนมากจากไต้หวัน ประเทศไทย และเกาหลีใต้

เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้มากที่สุด งานอีเวนต์ได้จัดโปรแกรมการส่งคำเชิญผู้มีบทบาทในการจัดซื้อ ซึ่งจะนำเอาผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย ผู้อำนวยการและผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อระดับสูงมากกว่า 2,200 รายมารวมตัวกัน ในบรรดาบุคคลดังกล่าวนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งจะมาจากต่างประเทศจำนวน 98 ประเทศ ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ เม็กซิโก จีน โปรตุเกส สหราชอาณาจักร โคลอมเบีย แคนาดา และเกาหลีใต้ และมีการวางแผนที่จะจัดการประชุมทางธุรกิจมากกว่า 13,000 รายการ

Alimentaria&Hostelco เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับหลายภาคธุรกิจ ซึ่งนำเสนอธุรกิจระดับสากลที่มีตัวแทนจากภาคธุรกิจเนื้อสัตว์ การบริการด้านอาหารและการต้อนรับที่ครอบคลุมมากที่สุด สำหรับงานในปีนี้จะมุ่งเน้นที่ช่องทางภาคธุรกิจโฮเรก้า (Horeca) และผนวกรวมข้อเสนอการจัดแสดงสินค้า International Restaurant, Hotel, Catering and Community Equipment and Machinery Show ของ Hostelco เข้ากับ Restaurama ซึ่งจัดแสดงโดย Alimentaria ผู้เชี่ยวชาญในการบริการด้านอาหาร นอกจากนี้จะมีการเพิ่มภาคธุรกิจใหม่ด้านกาแฟ เบเกอรี่และเพสตรี และการจัดเลี้ยงในพื้นที่สำหรับหมู่คณะเข้าในพื้นที่ขนาดใหญ่นี้ ซึ่งจะใช้พื้นที่ของศูนย์การแสดงสินค้าสามพาวิลเลียนจากจำนวนทั้งหมดเจ็ดพาวิลเลียน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Alimentaria: Susana Santamaria ssantamaria@alimentaria.com
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Hostelco: Gloria Dilluvio gdilluvio@firabarcelona.com

หากสื่อมวลชนต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อ:

Salvador Bilurbina
อีเมล: sbilurbina@firabarcelona.com
โทร: +34628162674

GlobeNewswire Distribution ID 1000930113

รายงานการพัฒนาล่าสุดในด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยาทางคลินิกที่ EAACI Congress 2024 ในเมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน

EAACI Congress 2024
EAACI Congress 2024

EAACI Congress 2024

http://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/d32f0dd2-5510-4922-aead-62719b31e294

บาเลนเซีย, สเปน, March 19, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — European Academy of Allergy and Clinical Immunology (EAACI) ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 16,000 รายจาก 125 ประเทศ จัดให้มีการประชุมสมัชชาทุกปีเพื่อเปิดตัวการวิจัยล่าสุดและความก้าวหน้าทางนวัตกรรมด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยาทางคลินิก เราตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเชิญคุณเข้าร่วมการประชุม EAACI Congress 2024 ที่กำลังจะมาถึง โดยมีกำหนดจะจัดขึ้นที่บาเลนเซียตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคมถึง 3 มิถุนายน 2024
เพื่อมอบประสบการณ์อันล้ำลึกให้แก่คุณ เราขอเสนอพื้นที่สำหรับสื่อมวลชนโดยเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถนัดสัมภาษณ์แพทย์และนักวิจัยชั้นนำในสาขานั้นได้

ลงทะเบียนฟรี

สถานที่ตั้ง:
สถานที่จัดงานของเราคือ Feria de Valencia ซึ่งเป็นศูนย์การประชุมและนิทรรศการอันทรงเกียรติที่มีชื่อเสียงเรื่องความทันสมัยและความอเนกประสงค์ นอกจากนี้ กิจกรรมจะจัดขึ้นที่เมืองบาเลนเซียอันแสนสดใสและเป็นที่ชื่นชมว่าสามารถผสานจารีตประเพณีเก่าแก่เข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว

โปรแกรม:
โปรแกรมวิทยาศาสตร์จะครอบคลุมขอบเขตทั้งหมดในด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยาทางคลินิก ภายใต้หัวข้อหลักคือ “การปฏิวัติการดูแลผู้ป่วยด้วยพลังของวิทยาการข้อมูล” ขอรับรองว่าการประชุมใหญ่ของเราจะพาคุณสู่การเดินทางสุดพิเศษเพื่อเปิดรับความรู้ใหม่ๆ เรามีความยินดีที่จะนำเสนอโปรแกรมที่หลากหลาย เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งมีเซสชันทางวิทยาศาสตรกว่า 150 เซสชันที่จัดขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ข้อมูลและสร้างแรงบันดาลใจ

หัวข้อการประชุมใหญ่:

  • วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม: เข้าร่วมการสนทนาเพื่อทำความเข้าใจว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมทำให้โรคภูมิแพ้ เช่น โรคหอบหืด โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในประเทศอุตสาหกรรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้อย่างไร
  • ภูมิแพ้อาหาร: ปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญซึ่งมีความชุกของโรคเพิ่มขึ้นในเขตเมืองใหญ่และมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อชีวิตของผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ เราจะหารือเกี่ยวกับแนวทางที่ล้ำสมัยในการจัดการกับภาวะภูมิแพ้อาหาร
  • นวัตกรรมในการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด: ค้นพบการพัฒนาที่จะปฏิวัตการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดต่อสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งเป็นขอบเขตที่จะเปลี่ยนแปลงภาพรวมของการรักษาโรคภูมิแพ้ เรียนรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการประยุกต์ใช้การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด
  • โรคภูมิแพ้ในเด็ก: สำรวจอัตราการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกและปัจจัยที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์นี้ รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการริเริ่มระดับโลกในการจัดการกับโรคภูมิแพ้ในเด็ก และความพยายามร่วมกันเพื่อเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคภูมิแพ้

กลุ่มผู้นำทางความคิดของ EAACI
ในลิงก์นี้ คุณจะได้พบกับคณะกรรมการเฉพาะของเรา ซึ่งประกอบด้วยแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายเชื้อชาติ ที่พร้อมให้สัมภาษณ์และรายงานข้อมูล

ข่าวประชาสัมพันธ์: https://eaaci.org/news/

โซเชียลมีเดีย:

พอดแคสต์: https://linktr.ee/eaaci
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/eaaci/
Instagram: @eaaciHQ
Twitter: @EAACI_HQ
Facebook: https://www.facebook.com/EAACI
ติดต่อ: communications@eaaci.org

แฮชแท็ก: #EAACIannualCongress

GlobeNewswire Distribution ID 1000929992

แผนกลยุทธ์สำหรับแพลตฟอร์ม Decision Intelligence ของ Quantexa เวอร์ชันล่าสุดมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือองค์กรและหน่วยงานภาครัฐในการจัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับ AI

Quantexa Limited

Quantexa รองรับกระแสที่เพิ่มขึ้นอย่างมากขององค์กรที่ใช้ข้อมูล การวิเคราะห์ และ AI เพื่อขจัดระบบการทำงานแบบแยกส่วน

  • ด้วยความร่วมมือกับ Microsoft ทำให้แพลตฟอร์ม Decision Intelligence ของ Quantexa นั้นพร้อมใช้งานทันทีบน Microsoft Azure Marketplace บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างโซลูชันเฉพาะบน Azure
  • การแสดงตัวอย่างเทคโนโลยีแสดงให้เห็นถึงแผนการอันทะเยอทะยานของ Quantexa ในการเร่งการปรับใช้แพลตฟอร์ม โซลูชัน และ Generative AI (ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ได้เกือบเทียบเท่ามนุษย์) ในหมู่ผู้ใช้ทางธุรกิจ ข้อมูล และผู้เชี่ยวชาญด้านไอที
  • ลูกค้าของ Lighthouse นำ Q Assist™ ซึ่งเป็นตัวช่วย Generative AI มาใช้งานตั้งแต่ระยะแรก ๆ

ลอนดอน, March 14, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Quantexa ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันตัวช่วยการตัดสินใจอัจฉริยะสำหรับภาครัฐและเอกชน ใช้ฉากหลังของงาน QuanCon24 ซึ่งเป็นการประชุมลูกค้าและพันธมิตรประจำปี เพื่อเปิดเผยแผนกลยุทธ์สำหรับแพลตฟอร์ม Decision Intelligence และให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ Q Assist ซึ่งเป็นตัวช่วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ได้เกือบเทียบเท่ามนุษย์ที่มีการนำเสนอตัวอย่างไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ Quantexa ยังประกาศความร่วมมือกับ Microsoft ด้วย Dan Higgins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Quantexa ร่วมมือกับ Kate Rosenshine ผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีระดับโลกฝ่ายพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ Microsoft ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศความพร้อมใช้งานทันทีของแพลตฟอร์ม Decision Intelligence ของ Quantexa บน Microsoft Azure Marketplace และวางแผนที่จะนำโซลูชัน AI เฉพาะระบบคลาวด์ใหม่มาใช้งานสำหรับธนาคารขนาดกลางในสหรัฐอเมริกา

โดยให้ความสำคัญในด้านนวัตกรรมและความสามารถใหม่ ๆ

แผนการอันทะเยอทะยานของ Quantexa ในการเป็นผู้นำหมวดหมู่ตัวช่วยการตัดสินใจอัจฉริยะที่เกิดขึ้นใหม่นั้น มีรากฐานมาจากการช่วยเหลือองค์กรธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐเพื่อใช้การวิเคราะห์เชิงบริบทและ AI เพื่อปรับปรุงการตัดสินใจทั่วทั้งองค์กร Quantexa มุ่งเน้นการใช้งานจริงบนโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าในการวางแผนการปรับใช้เทคโนโลยีในอนาคต Gartner® คาดการณ์ว่า “ภายในปี 2027 เนื้อหาการวิเคราะห์ใหม่ 75% จะได้รับการจัดบริบทสำหรับแอปพลิเคชันอัจฉริยะผ่าน Generative AI ทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่ประกอบขึ้นจากหลายส่วนระหว่างข้อมูลเชิงลึกและการดำเนินการ”*

บริษัทได้แสดงความสามารถของแพลตฟอร์มในการใช้ AI เพื่อสร้างรากฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้ และเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีขึ้นให้กับกระบวนการตัดสินใจที่มีอยู่ ในขณะเดียวกันก็บูรณาการเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่มีอยู่ของลูกค้าได้อย่างราบรื่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตของ Quantexa

Dan Higgins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Quantexa กล่าวว่าเมื่อพูดถึงแผนกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีของ Quantexa เราได้รับคำแนะนำจากความต้องการของลูกค้าและความทะเยอทะยานในการเป็นผู้นำด้านตัวช่วยการตัดสินใจอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเราเพื่อช่วยลูกค้าของเราขจัดระบบการทำงานแบบแยกส่วนขององค์กร เพื่อสร้างรากฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้เกิดการตัดสินใจโดยอัตโนมัติที่ขยายขอบเขตในวงกว้าง และสนับสนุนการประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตลอดกระบวนการตัดสินใจ ด้วยการเปิดตัวความสามารถและโซลูชันใหม่ ๆ เรายังคงมุ่งเน้นอย่างแน่วแน่ในการส่งมอบนวัตกรรมที่ก้าวล้ำซึ่งช่วยปกป้อง เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างการเติบโตให้แก่องค์กรได้”

Quantexa มุ่งเน้นเสาหลักแผนกลยุทธ์สำคัญสี่ประการ

  • การขับเคลื่อนการตัดสินใจของมนุษย์/AI: Quantexa ยังคงริเริ่มสร้างสรรค์โซลูชันและเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานแหล่งข้อมูลที่หลากหลายและ AI ได้ เพื่อทำให้ตรรกะการตัดสินใจทางธุรกิจนั้นดำเนินการโดยอัตโนมัติในแอปพลิเคชันต่าง ๆ Quantexa กำลังอัปเดตแพลตฟอร์มให้มีความสามารถด้านการจัดการกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการให้คะแนน การแจ้งเตือน และรูปแบบการตัดสินใจใหม่ที่สามารถปรับแต่งได้ Quantexa เปิดตัวความสามารถในการจัดการกรณีใหม่ของแพลตฟอร์ม และการอัปเดตการใช้งาน Q Assist ในระยะแรก ซึ่งลูกค้าในหน่วยงานธนาคาร โทรคมนาคม และหน่วยงานภาครัฐนำไปใช้ในโครงการนำร่องเพื่อจัดการกับอาชญากรรมทางการเงิน การฉ้อโกง และความเสี่ยง และเพื่อระบุโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ด้วยข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า
  • การดำเนินการกับข้อมูลในขอบเขตเฉพาะด้วย AI และการวิเคราะห์เชิงบริบท: ความสามารถของ Quantexa ในการช่วยลูกค้าสร้างรากฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้ และการใช้ประโยชน์จากมุมมองของลูกค้ารายเดียวยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนอันดับต้น ๆ ของการนำแพลตฟอร์มไปใช้งาน เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นและความซับซ้อนของภาคอุตสาหกรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัว Quantexa ได้นำเสนอความก้าวหน้าในการจัดการข้อมูล การวิเคราะห์เชิงบริบท และความสามารถด้าน AI Quantexa แสดงตัวอย่างความสามารถที่ล้ำหน้ากว่าการใช้ข่าวกรองเพื่อรองรับการนำเข้าและการวิเคราะห์แหล่งข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างใด ๆ ผ่านการจำแนกเอนทิตี และส่งมอบความสามารถให้แก่ลูกค้าในการเปิดใช้งานการวิเคราะห์กราฟขนาดใหญ่และการเรียนรู้ของเครื่องสร้างกราฟโดยการรวมรูปแบบภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และกราฟความรู้
  • การเร่งระยะเวลาในการสร้างมูลค่าผ่านการปรับใช้ที่ไม่ซับซ้อนและโซลูชันแบบแพ็กเกจ: Quantexa ได้ประกาศตัวเลือกใหม่เพื่อให้ลูกค้าและพันธมิตรเริ่มต้นและใช้งานโซลูชันได้ง่ายขึ้นด้วยวิธีการปรับใช้ใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงคำแนะนำในการกำหนดค่าที่พร้อมใช้งานทันที ตลอดจนเครื่องมือที่ที่ใช้รหัสน้อยหรือไม่ใช้รหัสเลย ในปีนี้ Quantexa ยังลงทุนในการเร่งการส่งเสริมระบบนิเวศที่กำลังเติบโตของพันธมิตร ซึ่งรวมถึง PWC, EY, Dun & Bradstreet, KPMG และ Moody’s ซึ่งมีการนำเสนอให้แก่พันธมิตรที่ QuanCon24
  • การบูรณาการกระบวนการและชุดเทคโนโลยีที่ลูกค้ามีอยู่ได้อย่างราบรื่น: แพลตฟอร์ม Decision Intelligence ของ Quantexa มีสถาปัตยกรรมแบบเปิดที่สามารถขยายตัวได้ พร้อมด้วย API ที่ปรับขนาดได้ และการบูรณาการกับแอปพลิเคชันและระบบปลายทางที่มีประสิทธิภาพ ความพยายามในอนาคตจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างกรอบการทำงานที่เป็นมาตรฐานและตัวเชื่อมต่อที่พร้อมใช้งานทันที

Quantexa นำแพลตฟอร์ม Decision Intelligence และโซลูชันมาเปิดตัวบน Azure ด้วยความร่วมมือกับ Microsoft

จุดเด่นของระยะแผนกลยุทธ์ของ Quantexa ในอีเวนต์วันนี้คือการประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ระหว่าง Quantexa กับ Microsoft จุดเด่นมีดังต่อไปนี้:

  • ความพร้อมใช้งานทันทีของแพลตฟอร์ม Decision Intelligence ของ Quantexa บน Azure Marketplace: ขณะนี้แพลตฟอร์ม Decision Intelligence ของ Quantexa พร้อมใช้งานแล้วทั่วโลกบน Azure Marketplace สำหรับลูกค้าในส่วนของบริการทางการเงิน ภาครัฐ การประกันภัย และโทรคมนาคม อุตสาหกรรมสื่อและเทคโนโลยี
  • นวัตกรรม AI ช่วยให้ธนาคารขนาดกลางสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบและรับมือกับแรงกดดันของตลาดได้: นอกจากนี้ Quantexa ยังวางแผนที่จะสร้างโซลูชัน SaaS ใหม่เฉพาะสำหรับ Azure ซึ่งช่วยให้ลูกค้าปรับใช้โซลูชันการตรวจสอบธุรกรรม การสืบสวน และการจัดการกรณีเกี่ยวกับการป้องกันการฟอกเงิน (AML) แบบครบวงจร ที่ออกแบบมาเพื่อรวมความสามารถที่ดีที่สุดในภาคธุรกิจระดับเดียวกันที่ใช้งานเฉพาะในธนาคารรายใหญ่ที่สุดของโลกไว้ในข้อเสนอที่ปรับให้เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของสถาบันบริการทางการเงินที่มีสินทรัพย์สูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โซลูชันดังกล่าวจะส่งมอบความสามารถที่สำคัญในการติดตาม ตรวจจับ และสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินและความเสี่ยงให้แก่ธนาคารต่าง ๆ ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ข้อเสนอตามแผนที่วางไว้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้เทคโนโลยีรุ่นถัดไปได้ อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าตามทันนวัตกรรมที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นได้ Quantexa กำลังทำงานร่วมกับ Microsoft เพื่อจัดทำชุดความสามารถเบื้องต้นให้พร้อมใช้งานภายในสิ้นปี 2024

Dan Higgins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Quantexa กล่าวว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ตัวช่วยการตัดสินใจอัจฉริยะได้กลายเป็นเทรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังที่นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมหลายรายระบุไว้ แต่ตัวช่วยการตัดสินใจอัจฉริยะถือเป็นหัวใจสำคัญของเรามาโดยตลอดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ที่ Quantexa ในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาการนำเสนอเทคโนโลยีของเราเพื่อช่วยให้องค์กรและหน่วยงานภาครัฐใช้การวิเคราะห์เชิงบริบทและ AI เพื่อปรับปรุงการตัดสินใจ ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นแผนกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีล่าสุดของเรานั้นดำเนินการได้จริง ความร่วมมือครั้งใหม่ของเรากับ Microsoft ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบโซลูชันที่เข้าถึงได้ให้แก่ลูกค้า และเราจะยังคงดำเนินการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องและตอบสนองลูกค้าในขอบเขตที่พวกเขาต้องการ”

Tyler Pichach ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ด้านบริการทางการเงินของ Microsoft กล่าวว่า “องค์กรบริการทางการเงินมีความชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในแง่ของความสำเร็จในการรับมือกับความผันผวนของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งจะสร้างความจำเป็นในการใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้และ AI เพื่อขยายและทำให้การตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินการหลายพันรายการที่องค์กรดังกล่าวทำในแต่ละวันนั้นดำเนินไปโดยอัตโนมัติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูล การจัดการกับอาชญากรรมทางการเงิน หรือการระบุโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ ๆ เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่าง Quantexa เพื่อทำให้แพลตฟอร์ม Decision Intelligence พร้อมใช้งานบน Microsoft Azure Marketplace ผลักดันโซลูชันเฉพาะระบบคลาวด์ใหม่ไปสู่กลุ่มตลาดที่ใหญ่ขึ้น และขับเคลื่อนนวัตกรรมร่วมกันเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราในหลายภาคอุตสาหกรรมรับมือกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาได้”

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมว่าองค์กรของคุณสามารถใช้ตัวช่วยการตัดสินใจอัจฉริยะได้อย่างไร หรือต้องการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Total Economic Impact™ ของ Forrester ในแพลตฟอร์ม Decision Intelligence ของ Quantexa โปรดไปที่นี่ หากต้องการดูสมัยการประชุมจาก QuanCon24 ตามที่คุณต้องการ โปรดไปที่เว็บไซต์ QuanCon

*Gartner, Predicts 2024: How Artificial Intelligence Will Impact Analytics Users โดย Edgar Macari, Peter Krensky, Afraz Jaffri, David Pidsley, Aura Popa, Mike Fang, Rita Sallam, Julian Sun, Radu Miclaus วันที่ 4 มกราคม 2024

GARTNER เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และได้รับอนุญาตให้นำมาใช้งานในที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์

เกี่ยวกับ Quantexa
Quantexa เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ระดับโลก ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มแพลตฟอร์ม Decision Intelligence ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แก่องค์กรในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินงานที่เชื่อถือได้โดยการทำให้ข้อมูลนั้นมีความหมาย แพลตฟอร์มตัวช่วยการตัดสินใจอัจฉริยะของ Quantexa สามารถค้นพบความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่และโอกาสใหม่ ๆ โดยการให้มุมมองที่เชื่อมต่อกันตามบริบทของข้อมูลทั้งภายในและภายนอกในที่เดียวโดยใช้ความก้าวหน้าล่าสุดในข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์นั้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความท้าทายที่สำคัญในการจัดการข้อมูล การทำความรู้จักกับลูกค้าของคุณ (KYC) ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า อาชญากรรมทางการเงิน ความเสี่ยง การฉ้อโกง และความปลอดภัย ตลอดวงจรชีวิตของลูกค้า

แพลตฟอร์ม Decision Intelligence ของ Quantexa เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และความละเอียดของรูปแบบการวิเคราะห์ที่เร็วขึ้น 60 เท่าเมื่อเทียบกับวิธีการแบบเดิม Quantexa ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 ในปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 700 คน และผู้ใช้หลายพันรายที่ทำงานเกี่ยวกับธุรกรรมและจุดรวบรวมข้อมูลหลายพันล้านรายการทั่วโลก บริษัทมีสำนักงานในลอนดอน ดับลิน บรัสเซลส์ มาลากา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นิวยอร์ก บอสตัน โทรอนโต ซิดนีย์ เมลเบิร์น และโตเกียว

การสอบถามข้อมูลสื่อ

ติดต่อ: Stephanie Crisp รองผู้อำนวยการและนักวางกลยุทธ์สื่อ Fight or Flight
E: Quantexa@fightflight.co.uk

ติดต่อ: Adam Jaffe รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดขององค์กร
โทรศัพท์: +1 609 502 6889
อีเมล: adamjaffe@quantexa.com

ดูรูปภาพที่ใช้ประกอบการประกาศนี้ได้ที่ http://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/36fa5c1e-cba8-4a4c-9272-191148c797aa

GlobeNewswire Distribution ID 1000929084

Tokyo Innovation Base: Tokyo’s Node in the Global Startup Ecosystem, Opening May 2024

TOKYO, JAPAN / ACCESSWIRE / March 13, 2024 / The Tokyo Metropolitan Government is proud to announce the launch of Tokyo Innovation Base. Combining the facilities of the startup campus and business networking hub in the beating heart of Japanese commerce and culture, Tokyo Innovation Base (TIB) seeks to supercharge the local startup scene and position Tokyo as a premier global hub for innovation and entrepreneurship.

Tokyo Innovation Base
Tokyo Innovation Base
Tokyo Innovation Base

City with a mission

Organized by the Tokyo Metropolitan Government with a mission to catalyze innovation and drive societal progress, TIB aims to make Tokyo the most startup-friendly city in the world.

The Japanese government has already pushed through legislation and earmarked funding to grow the number of startups and new business launches in the capital tenfold over the next five years. This "Five-Year Startup Development Plan," announced in November 2022, includes increasing the current annual startup investment of 800 billion yen to 10 trillion yen by FY2027, and creating 100 unicorns and 100,000 startups in the future.

Koike Yuriko, Governor of Tokyo, expressed her vision for Tokyo Innovation Base: "Our core values at TIB are global, growth, collaboration, and connect. We hope to see entrepreneurs and innovators born here and gather from all over the world. Tokyo is committed to supporting all innovators."

Node of Innovation

TIB will do its part in supercharging Tokyo’s startup ecosystem with a focus on collaboration, access, and networking. By providing a space for entrepreneurs, investors, and representatives from established companies and government to mingle and exchange ideas freely, TIB serves as a convergence point where ambitious minds unite to drive societal progress through groundbreaking ideas and cutting-edge technologies.

Over 140 corporate partners have established ties with TIB, to foster ecosystem collaboration by connecting startup ecosystem builders and investors with key stakeholders in Tokyo and Japan.

Concierge

At Tokyo Innovation Base, we want to ensure that startups truly take off. Offering access to over 50 experts from a wealth of industries for one-on-one meetings, our concierge program caters to early-stage startups, later-stage startups interested in establishing a presence in Japan, and future founders exploring business opportunities in Japan.

Mentorship covers everything from guidance specific to your industry, to more general assistance such as pitch training sessions, business ideation, and facilitation of partnerships with Japanese corporations.

Events

As a major hub for startups, universities, venture capitalists, and support organizations, Tokyo provides fertile ground to connect with major industry players and a truly enormous customer base.

TIB’s regular networking events seek to bring the people that can matter together.

Exhibit

TIB’s permanent exhibition hall provides space for startups to show off their latest innovations. One of the hardest parts of launching a new business, product, or service can be raising awareness in the people who matter. With TIB’s 140 corporate partners and ecosystem of VCs and entrepreneurs, whether you’re looking for partners or investment, there is no better place to start.

Calling all innovators

Don’t take our word for it: Tokyo Innovation Base is having its grand opening in May, and it’s open to all. For more information, please check our website and follow us on social media.

Website: https://tib.metro.tokyo.lg.jp/en
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/tokyoinnovationbase/
X: https://twitter.com/TIBTokyo

Contact

For media inquiries or more information about Tokyo Innovation Base, please contact:

Office for Startup and Global Financial City Strategy, Tokyo Metropolitan Government
Email: tokyo_innovation_base@tohmatsu.co.jp

Contact Information

Tokyo Innovation Base TIB
Media Relations
tokyo_innovation_base@tohmatsu.co.jp

Related Images

Tokyo Innovation Base
Tokyo Innovation Base
Tokyo Innovation Base
Tokyo Innovation Base
Tokyo Innovation Base
We created the Tokyo Innovation Base as a place for startups and ecosystem builders to come together. Yuriko Koike, Governor of Tokyo
Tokyo Innovation Base Entrance
Tokyo Innovation Base Entrance

SOURCE: Tokyo Innovation Base

.

View the original press release on newswire.com.

Autobrains’ Liquid AI Enables True Automotive Intelligence

Autobrains, an automotive AI powerhouse, is unveiling its new groundbreaking AI technology, Liquid AI, which effectively tackles the three major challenges in today’s automotive AI landscape – covering edge cases, achieving a viable cost point, and bridging the gap between perception and decision.

TEL AVIV, ISRAEL and MUNICH, GERMANY / ACCESSWIRE / March 13, 2024 / Autobrains, a leader in automotive AI headquartered in Tel Aviv, introduces its latest breakthrough: Liquid AI. Liquid AI represents a paradigm shift in autonomous driving and Advanced Driver Assistance Systems (ADAS), addressing challenges that even the best automotive companies struggle to overcome. It combines Autobrains’ signature-based self-learning approach with a modular and adaptive architecture of specialized, scenario-based end-to-end skills. "While current technologies perform well in handling average conventional driving tasks, they fall short when faced with unexpected real-world driving scenarios that demand greater precision. By using or implementing our Liquid AI, automotive companies can close their AI gaps," adds Autobrains’ Founder and CEO, Igal Raichelgauz.

The Challenges Faced by Conventional AI Systems:

  • Edge Cases: The infinite variety of unexpected driving scenarios presents conventional AIs with practically unsolvable tasks. Today’s manually trained black-box systems cannot cover edge cases. Attempts to address this by feeding the systems more labeled images result in a loss of trackability and controllability.
  • Cost: Addressing real-world driving problems by expanding existing systems with more data, labeling, layers, and computational resources leads to escalating costs and power consumption, resulting in diminishing returns. Achieving a substantial improvement in system accuracy by a factor of 10 requires 10,000 times more computational resources.
  • Perception-Decision Disconnect: The missing interplay between perception and decision functions hinders effective and precise decision-making. For the AI to make optimal driving choices, it requires specific information. However, when details are missing or overly complex, precision is compromised, leading to incorrect reactions.

Liquid AI – Human Brain-Inspired:

Autobrains draws inspiration from the human brain, which consists of specialized areas akin to task-specific narrow end-to-end AIs. Just as our brain adapts its architecture based on context – such as light/weather conditions, surroundings, and relevant road users – Liquid AI follows the same approach. Here’s how it works:

  • Network of Specialized Narrow AIs: Liquid AI comprises hundreds of thousands of specialized narrow AIs, each designed for specific tasks, making reactions very precise and tailored to the relevant driving scenario. This specialized AI approach enables scalability, ranging from a few tens to hundreds of AIs for ADAS systems, scaling up to thousands for higher levels of automated driving, all the way to hundreds of thousands of AIs for full self-driving.
  • Adaptive Architecture: Unlike fixed systems, Liquid AI’s architecture adapts dynamically to the driving context, activating only relevant modules as necessary. This significantly reduces power consumption and compute requirements, not only resulting in cost savings for the System on Chip (SoC) hardware.
  • Efficiency and Precision: By mimicking the brain’s flexibility, Liquid AI achieves superior performance, cost-effectiveness, and safety.

The Future of Automotive Intelligence:

Autobrains’ Liquid AI bridges the gap between conventional AI limitations and the promise of truly intelligent autonomous systems. By mimicking the human brain’s flexibility, Liquid AI achieves superior performance, cost-effectiveness, and more explainability and controllability.

About Autobrains

Autobrains is a leading AI company in the automotive industry. Autobrains invented and developed a paradigm-shifting AI technology: Liquid AI – backed by 250+ patents addressing autonomous driving challenges. Implementing this unique AI technology for ADAS applications disrupts the market with its unprecedented perception capabilities, low compute requirements, and agnosicity to sensors and SoCs. The company is backed by strategic investors including Temasek, Knorr-Bremse AG, BMW i Ventures, Toyota Ventures, VinFast, Continental AG, and Autel.

Learn more: https://autobrains.ai.

Contact: sales@autobrains.ai

Contact Information

Sophia Eichler
Director of Marketing
media@autobrains.ai
+49 015167066494

SOURCE: Autobrains

.

View the original press release on newswire.com.

Photonis’ Ion Detection Technology Enables NASA’s Key Research of Aurora Phenomenon

Photonis Channeltron® Electron Multipliers Soar Into the Alaskan Aurora on NASA’s DISSIPATION Mission

STURBRIDGE, MA / ACCESSWIRE / March 13, 2024 / Photonis, a leading brand of Exosens, has supplied U.S. government agency NASA with Channeltron® (Channel Electron Multipliers) to be used to aid in the detection of particles present within the atmospheric phenomenon known as the Aurora Borealis.

On Nov. 8, NASA’s Goddard Flight Center’s DISSIPATION mission took flight aboard a suborbital, two-stage sounding rocket launched from the Poker Flats Research Range in Fairbanks, Alaska. The launch occurred shortly after midnight and was timed perfectly with the peak of the aurora that morning, which lasted less than half an hour. Ascending into the auroras, the mission aimed to gather crucial data that will shed light on the intricate process of energy dissipation from high-altitude solar winds into the atmosphere. This knowledge holds significant implications for enhancing our understanding of aurora formation and improving space weather predictions.

The DISSIPATION sub-payload features NASA’s MoSAIC (Modular Spectrometer for Atmosphere and Ionization Characterization) instrument equipped with Photonis Channeltron® Channel Electron Multipliers. These specialized detectors play a crucial role in MoSAIC, enabling precise measurements of neutral and ion winds’ composition, density, temperature, and velocity in the upper atmosphere.

"We are excited and honored to contribute our advanced Channeltron™ Ion Detection Technology to NASA’s DISSIPATION Mission. This collaboration marks another milestone in our commitment to make advanced cutting-edge technology available for the scientific community to explore and understand the mysteries of our universe. We look forward to seeing how our technology aids in unraveling the complexities of the Aurora Borealis and solar winds to improve space weather predictions," said Ulrich Laupper, President and Executive General Manager of the Exosens Ultimate Detection Business Unit.

While it will take scientists a while to analyze all the data, the early results are that the mission was a complete success.

ABOUT PHOTONIS:

Photonis, a leading product brand of Exosens, is a high-tech company with more than 85 years of experience in the innovation, development, manufacture, and sale of high-end electro-optical technologies used in the detection and amplification of ions, electrons, and photons. Photonis offers its customers photo-detection and low-light conditions imaging solutions for extremely demanding environments such as Defense & Security, Nuclear Safety, Life Science, and Industrial & Non-Destructive testing. Photonis is internationally recognized as a leading brand and a major innovator in its fields with production and R&D sites in Europe and North America.

For more information: exosens.com.

Contact Information

Sales Manager
science@exosens.com
5083474000

SOURCE: Photonis Scientific, Inc.

.

View the original press release on newswire.com.